ข้อมูลมหาวิทยาลัย,บัณฑิตวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นต้องที่ JPSS > ข่าวสาร/ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเข้าศึกษาต่อ > แนะนำการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น > ก้าวแรกของการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น > การศึกษาต่ออย่างประสบความสำเร็จ
ระยะเวลาในการศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นยาวนานขึ้นจะทำให้ความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นดีขึ้น,เข้าใจแนวคิดหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของคนญี่ปุ่นมากขึ้น แต่เพียงเท่านั้นก็จะทำให้เสียค่าเล่าเรียนหรือค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตอย่างมาก มาลองพิจารณาระยะเวลาในการศึกษาต่อที่ไม่เกินกำลังและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กันเถอะ
ลองมาเรียกการศึกษาต่อตั้งแต่ 2~3 เดือนจนถึงประมาณ 1 ปีว่าการศึกษาต่อระยะสั้น, 2~3 ปีคือการศึกษาต่อระยะกลาง,มากกว่านั้นคือการศึกษาต่อระยะยาวกันเถอะ
การศึกษาต่อระยะสั้นเป็นวิธีการที่ใช้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หากคุณเป็นนักศึกษาที่ขึ้นทะเบียนในมหาวิทยาลัยที่ประเทศของคุณเข้าร่วมโปรแกรมนี้จะดีไหม หากเป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแล้วสามารถทำการวิจัยเฉพาะทางในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นในฐานะนักวิจัยเป็นเวลา 6 เดือนหรือ 1 ปี สำหรับสาขาวิจัยนั้นไม่ต้องการความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่น
กรณีที่คุณไม่ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในประเทศของคุณ คิดว่าการศึกษาภาษาญี่ปุ่นเป็นวัตถุประสงค์ในการศึกษาต่อระยะสั้นจะดีกว่าเนื่องจากคุณสามารถเรียนรู้การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นควบคู่ไปกับการเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยในระยะเวลา 1 ปีได้ การศึกษาต่อด้านภาษาในระยะเวลาสั้นกว่านั้น ยังมีวิธีการเรียนเพื่อเพิ่มความสามารถในการสนทนาภาษาญี่ปุ่นอย่างง่าย ๆ ในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น หรือวิธีการเรียนภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานในหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวิธีการเรียนหลักสูตรเฉพาะทางในฐานะนักศึกษาวิจัยที่เข้าเรียนโดยไม่ได้รับหน่วยกิตเป็นระยะเวลา 6 เดือนหรือ 1 ปีสำหรับผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นจากประเทศของคุณอยู่แล้ว
การศึกษาต่อระยะกลางนั้น มีวิธีการที่จะเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยอาชีวศึกษาหรือวิทยาลัยระดับอนุปริญญา หลังจากที่จบการศึกษาจากสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น 1 ปีแล้ว คิดว่าการตั้งเป้าหมายการเรียนภาษาญี่ปุ่นในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น 1 ปีเพื่อให้ผ่านการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 เป็นเรื่องที่ดี มาค้นหาสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นที่มีหลักสูตรแบบนั้นกันเถอะ
มีหลักสูตรปริญญาที่สามารถเรียนโดยใช้ภาษาอังกฤษด้วย หากมีความสามารถในการฟังการบรรยายด้วยภาษาอังกฤษอยู่แล้วสามารถได้รับปริญญามหาบัณฑิตโดยที่ไม่ต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น
มีหลายวิธีการสำหรับผู้ที่สามารถศึกษาต่อระยะยาวได้ เช่น หากเป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศของตนแล้ว สามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนักศึกษาวิจัยหรือหลักสูตรปริญญาโทในบัณฑิตวิทยาลัยหลังการศึกษาในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 1~2 ปี หากใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแล้ว สามารถเข้าศึกษาโดยตรงในหลักสูตรปริญญาโท・ปริญญาเอกที่เรียนด้วยภาษาอังกฤษ หากเป็นผู้ที่ยังไม่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย สามารถเข้าศึกษาในคณะของมหาวิทยาลัย 4 ปี เพื่อให้ได้รับปริญญาบัตร หรือการเข้าศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษาประมาณ 2 ปีเพื่อให้ได้ประกาศนียบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญ หลังจากเรียนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 1~2 ปี
ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของการศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นคือ การที่สามารถทำงานพิเศษได้ 28ชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์ (หากเป็นช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ฯลฯ สามารถทำได้ 8 ชั่วโมงในหนึ่งวัน)
แต่เป็นไปไม่ได้ที่รายได้จากการทำงานพิเศษจะเพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตหรือค่าเล่าเรียนในญี่ปุ่นได้ทั้งหมด นอกจากนั้น หากไม่มีความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นแล้วจะไม่มีใครจ้างทำงานพิเศษ ไม่ใช่ว่าจะหางานพิเศษที่เหมาะสมกับตนเองได้ง่ายภายใต้ขีดจำกัดนี้ และถึงแม้ว่าจะทำงานพิเศษอยู่แต่ก็ต้องเตรียมตัวไว้ด้วยว่าอาจจะต้องลาออกมาทำวิทยานิพนธ์เพื่อจบการศึกษาหรือลาออกมาเพื่อหางานทำก็ได้
มาวางแผนเงินทุนเพื่อให้สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตได้โดยที่ไม่ต้องทำงานพิเศษกันเถอะ และเมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้ว หากหางานพิเศษได้ เงินเก็บที่ได้จากการทำงานพิเศษจะได้นำมาเป็นเงินทุนเพื่อการวางแผนต่อไปในอนาคต
เงินทุนการศึกษาหรือการได้รับส่วนลดค่าเล่าเรียนเช่นกัน หากไม่ได้รับทุนหรือส่วนลดค่าเล่าเรียนและมีเงินไม่เพียงพอ จะทำให้เป็นการศึกษาต่อญี่ปุ่นแบบที่ไม่มีการวางแผนทำให้การดำรงชีวิตไม่ราบรื่น หากได้รับเงินทุนการศึกษาหรือได้รับการลดค่าเล่าเรียน ก็ขอให้วางแผนเงินทุนให้เพียงพอด้วย